Reviews
User Score
Rate This
Descriptions:
แน่นอนครับ นี่คือเรื่องสั้นพร้อมบทสนทนาเด่น สรุปตามโครงสร้าง และข้อคิดชวนติดตาม จากอนิเมะจีนเรื่อง Mushen (Ji Tales of Herding Gods) ตำนานเทพกู้จักรวาล ตอนที่ 25 ครับ (มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของตอนนี้)
เรื่องสั้น: สายสัมพันธ์ในเงา และพันธสัญญาใต้ตะวันดับ
บทนำ: แสงปริศนาและความหวังที่ริบหรี่
หลังม่านควันแห่งการล่าถอยของกองทัพเหยียนคังอันเกรียงไกร ที่แตกพ่ายไปด้วยอำนาจลึกลับของ “เรือสุริยัน” ฉินมู่ เด็กหนุ่มเลี้ยงวัวแห่งหมู่บ้านผู้พิการในดินแดนต้าซวีอันรกร้าง ก็ได้เผชิญหน้ากับความจริงอันน่าทึ่ง เขาได้พบกับ เหยียนจิงจิง เด็กสาวร่างเล็กผอมบาง ผู้เป็น “ผู้พิทักษ์สุริยัน” คนปัจจุบัน และเป็นผู้ควบคุมเรือลำมหึมานั้น แต่ภายใต้พลังอันน่าเกรงขาม กลับซ่อนไว้ซึ่งความลับอันน่าเศร้าและภาระที่หนักอึ้ง
เนื้อเรื่อง: คำสาบานใต้ตะวันดับ และเส้นทางสู่โลกมืด
เหยียนจิงจิงเปิดเผยความจริงอันน่าตกใจ “ดวงอาทิตย์ของพวกเราดับไปแล้ว…” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “…ดังนั้น เวลาที่ข้าขับเรือสุริยัน เรือจะดูดเอาพลังชีวิตและเลือดเนื้อของข้าไป ทำให้ข้าผอมเล็กแบบนี้ไง” เผ่าของเธอ “เผ่าวันสิ้นโลก” คือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลดวงอาทิตย์มาแต่โบราณ แต่เมื่อตะวันดับ หน้าที่นั้นกลับกลายเป็นการสังเวยชีวิต “พ่อของข้าก็ตายแบบนี้แหละ”
ความหวังเดียวของพวกเขาคือการตามหา “อู๋โยวเซียง” (ดินแดนไร้กังวล) สถานที่ลึกลับในตำนาน ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่อยู่ของผู้สร้างเรือสุริยัน และอาจเป็นกุญแจสำคัญในการจุดตะวันให้ลุกโชนอีกครั้ง “ถ้าหาอู๋โยวเซียงเจอ ก็อาจจะมีวิธีจุดไฟให้ดวงอาทิตย์ได้อีกครั้ง”
เรื่องราวกลับผูกปมซับซ้อนยิ่งขึ้น เมื่อท่านปู่หัวหน้าเผ่าของเหยียนจิงจิง สังเกตเห็นจี้หยกที่ฉินมู่พกติดตัว “ตราประทับบนจี้หยกของเจ้านี่…” ท่านปู่กล่าวอย่างครุ่นคิด “…ไม่ใช่เทพ ไม่ใช่ปีศาจ ทั้งไม่ใช่เซียน… น่าจะมาจาก ‘อู๋โยวเซียง'” จี้หยกชิ้นนี้อาจเป็นเบาะแสเดียวที่เชื่อมโยงฉินมู่กับพ่อแม่ที่หายสาบสูญ และดูเหมือนว่าโชคชะตาของเขากำลังผูกพันกับดินแดนลึกลับแห่งนี้
ด้วยความเห็นใจและสัมผัสได้ถึงสายใยบางอย่าง ฉินมู่ให้คำมั่นสัญญา “ถ้าข้ามีความสามารถพอ แล้วหาอู๋โยวเซียงเจอได้ล่ะก็… ข้าจะช่วยเจ้าจุดไฟให้ดวงอาทิตย์แน่นอน!” เหยียนจิงจิงจากไปพร้อมเรือสุริยัน มุ่งหน้าสู่ “บ่อสุริยัน” และ “ทะเลดาวนักษัตร” ในความมืด ทิ้งไว้เพียงคำบอกทิศทางและความหวัง
แต่ปริศนายังไม่คลี่คลาย เมื่อฉินมู่เหลือบไปเห็นเงาร่างสตรีลึกลับในความมืดมิด เงานั้นดูคุ้นตาอย่างประหลาด ท่านย่าของเขาจำได้ว่านางคือคนที่ตายไปแล้วเมื่อ 14 ปีก่อน! คำถามเกิดขึ้นทันที หรือว่าอู๋โยวเซียงเกี่ยวข้องกับการฟื้นคืนจากความตาย?
ท่านหัวหน้าหมู่บ้านผู้เปี่ยมปัญญาและประสบการณ์ (ผู้เฒ่าขาเป๋) ได้ไขความกระจ่างบางส่วน ท่านเล่าถึงประสบการณ์ในอดีตที่เคยหลงเข้าไปในความมืด และได้พบกับ “โลกต่างๆ ที่ซ้อนทับอยู่กับต้าซวี” ท่านเรียกมันว่า “โลกมืด” (อันเจี้ย) ซึ่งจะปรากฏชัดในยามค่ำคืน และคาดว่าอู๋โยวเซียงอาจซ่อนตัวอยู่ในโลกมืดนี่เอง “ข้าคิดว่าจะพามู่เอ๋อร์ไปเยือนโลกมืดสักครั้ง ไปสืบดูว่าอู๋โยวเซียงคืออะไรกันแน่” ท่านหัวหน้าหมู่บ้านประกาศกร้าว เตรียมนำทางฉินมู่สู่การผจญภัยครั้งใหม่ที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม
ท่ามกลางความมืดมนและความลึกลับ โลกภายนอกก็เข้ามาทักทาย องค์หญิงเจ็ด (หลิงอวี้ซิ่ว) แห่งแคว้นเหยียนคัง ปรากฏตัวขึ้น นางพยายามชักชวนฉินมู่ให้ออกจากต้าซวี ดินแดนที่นางมองว่า “ห่างไกลและรกร้าง” เพื่อไปสร้างอนาคตในยุคแห่งการปฏิรูปที่เหยียนคัง แต่ฉินมู่ปฏิเสธอย่างสุภาพ “บ้านข้ากฎระเบียบเยอะ… ต้องผ่านการทดสอบของผู้อาวุโสให้ได้ก่อน… จนป่านนี้ยังไม่ผ่านสักด่านเลย ฮ่าๆๆ… แล้วข้ายังต้องเข้าไปในโลกมืด ตามหาอู๋โยวเซียงให้เจอด้วย”
บทสนทนาอันขบขันก็ตามมา เมื่อความจริงเปิดเผยว่าถุงหอมที่ฉินมู่ได้มาจากท่านปู่ขาเป๋ แท้จริงแล้วท่านปู่ไป “หยิบยืม” มาจากองค์หญิงเจ็ดสมัยยังเป็น “คุณชายเฟยชีอ้วนตุ๊ต๊ะ” นั่นเอง! “ข้าก็คือคุณชายเฟยชีอ้วนตุ๊ต๊ะนั่นแหละ!” นางโพล่งออกมาอย่างขัดใจ ก่อนจะกลายเป็นเสียงหัวเราะและมิตรภาพที่ก่อตัวขึ้น แม้จะต่างสถานะและเป้าหมาย องค์หญิงเจ็ดมอบถุงหอมให้ฉินมู่เป็นที่ระลึก และรับค้อน (!) เป็นของตอบแทน ก่อนจะจากไปพร้อมคำสัญญาว่าจะรอพบเขาที่เมืองหลวง
บทสรุป: สู่เส้นทางใหม่ในความมืด
ตอนนี้จบลงด้วยการที่ฉินมู่มีเป้าหมายใหม่ที่ชัดเจน เขาต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อผ่านการทดสอบของผู้อาวุโส และที่สำคัญคือการเตรียมตัวเดินทางเข้าสู่ “โลกมืด” อันแสนอันตรายพร้อมกับท่านหัวหน้าหมู่บ้าน เพื่อตามหา “อู๋โยวเซียง” ซึ่งอาจเป็นคำตอบของทั้งอดีตของเขา และอนาคตของเหยียนจิงจิงกับเผ่าวันสิ้นโลก ขณะเดียวกัน โลกภายนอกอย่างแคว้นเหยียนคังและองค์หญิงเจ็ด ก็รอคอยการมาถึงของเขาในอนาคตเช่นกัน
ตัวละครเด่นในตอนนี้:
- ฉินมู่: เด็กหนุ่มผู้มีอดีตเป็นปริศนา (จี้หยกจากอู๋โยวเซียง) จิตใจดี กล้าหาญ และเริ่มแบกรับภาระความคาดหวังและพันธสัญญาที่ใหญ่เกินตัว
- เหยียนจิงจิง: ผู้พิทักษ์สุริยันผู้เสียสละ แบกรับชะตากรรมของเผ่าพันธุ์ไว้บนบ่าเล็กๆ เป็นตัวแทนของความหวังที่เปราะบางแต่ไม่ยอมดับสิ้น
- องค์หญิงเจ็ด (หลิงอวี้ซิ่ว/เฟยชี): เจ้าหญิงสูงศักดิ์จากโลกภายนอก มีไหวพริบ ช่างต่อรอง และเริ่มมองเห็นศักยภาพในตัวฉินมู่ เป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงและโลกกว้าง
- ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน: ผู้เฒ่าผู้มากประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับความลับของต้าซวีและโลกมืด เป็นผู้ชี้นำและเตรียมผลักดันฉินมู่สู่การเติบโตครั้งสำคัญ
ข้อคิด ชวนคิด และการแก้ปัญหาของตัวละคร:
- การเผชิญหน้ากับโชคชะตา: เหยียนจิงจิงยอมรับชะตากรรมที่ต้องสละชีวิตเพื่อขับเคลื่อนเรือ แต่ไม่ยอมแพ้ ยังคงแสวงหาหนทางแก้ปัญหา (ตามหาอู๋โยวเซียง) แสดงให้เห็นถึงความหวังแม้ในสถานการณ์ที่มืดมนที่สุด
- ความผูกพันและความเห็นอกเห็นใจ: แม้จะเพิ่งพบกัน ฉินมู่ก็เลือกที่จะให้คำมั่นสัญญาช่วยเหลือเหยียนจิงจิง การตัดสินใจนี้ไม่ได้มาจากตรรกะเพียงอย่างเดียว แต่มาจากความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญในการเดินทางของเขา
- อดีต ปัจจุบัน และอนาคต: จี้หยกเชื่อมโยงอดีตของฉินมู่เข้ากับปริศนาของอู๋โยวเซียง การตัดสินใจในปัจจุบัน (ช่วยเหลือจิงจิง, เข้าโลกมืด) จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของเขาและผู้คนรอบข้าง
- ความรู้คือพลัง และกุญแจสู่ทางออก: ท่านหัวหน้าหมู่บ้านใช้ประสบการณ์และความรู้ที่สั่งสมมา (การเดินทางในโลกมืด) เป็นเครื่องมือนำทางและแก้ปัญหา แสดงให้เห็นว่าความเข้าใจในโลกรอบตัว แม้จะเป็นเรื่องอันตราย คือสิ่งสำคัญในการก้าวข้ามอุปสรรค
- เส้นทางที่แตกต่าง: ฉินมู่เลือกที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายในดินแดนของตน (การทดสอบ, โลกมืด) ก่อนจะออกสู่โลกภายนอก ขณะที่องค์หญิงเจ็ดนำเสนอเส้นทางลัดสู่ความสำเร็จในโลกที่กว้างกว่า คำถามคือ เส้นทางไหนคือสิ่งที่ถูกต้องสำหรับตัวละครแต่ละคน? และการเติบโตที่แท้จริงมาจากไหน?
ตอนที่ 25 นี้เต็มไปด้วยการเปิดเผยข้อมูลสำคัญ ปูทางไปสู่การผจญภัยครั้งใหม่ที่ลึกซึ้งและอันตรายยิ่งขึ้นในโลกของ Mushen ได้อย่างน่าติดตามครับ!