Reviews
User Score
Rate This
Descriptions:
บทนำ
ในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรและกลไกพิศดาร “ตำนานผู้พิชิตชะตาฟ้า” ได้ดำเนินมาถึงจุดที่เข้มข้น เมื่อจ้าวอี้หลงและหลัวเซียนจื่อ สองศิษย์พี่น้องแห่งสำนักอวี้ชิง เดินทางไปยังทะเลสาบไป๋หวี เพื่อขอความช่วยเหลือจากปรมาจารย์กลไก ฟู่ปู้ชิง ผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือในการประดิษฐ์กลไกเหนือจินตนาการ พวกเขามีศิลาอำพันสวรรค์ในมือ กุญแจสำคัญสู่ “กู่จีเตี้ยน” หอแห่งกลไกโบราณที่ซ่อนเร้น ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแหล่งพลังอำนาจและสายเลือดจักรพรรดิมาร แต่หนทางสู่กู่จีเตี้ยนนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เมื่อภัยคุกคามจากเหล่ามารร้าย และความลับดำมืดในอดีตชาติเริ่มคืบคลานเข้ามา
เนื้อเรื่อง
เมื่อมาถึงทะเลสาบไป๋หวี จ้าวอี้หลงและหลัวเซียนจื่อก็ได้พบกับฟู่ปู้ชิง ปรมาจารย์กลไกผู้มีบุคลิกแปลกประหลาด เกินความคาดหมายของพวกเขา ฟู่ปู้ชิงต้อนรับพวกเขาด้วยกลไกสุดพิสดาร สร้างความประหลาดใจให้กับศิษย์น้องอย่างหลี่ว้านเหนียนที่ติดตามมาด้วย
บทสนทนาแรกเริ่มขึ้นอย่างทีเล่นทีจริง เมื่อฟู่ปู้ชิงทักทายหลัวเซียนจื่อด้วยบทกวี และแสดงท่าทีสนใจในตัวนางอย่างออกนอกหน้า
ฟู่ปู้ชิง: “เมื่อสายลมทองต้องน้ำค้างหยก…เพียงพบพานครั้งเดียว ดีกว่าโลกมนุษย์นับครั้งไม่ถ้วน! ที่แท้ก็เป็นคุณชายหลัวกับเซียนจื่อ ที่มาเยือนเรือนน้อยอันแร้นแค้นแห่งนี้! ในที่สุดท่านก็คิดได้แล้วสินะ ว่าจะมาเป็นคู่บำเพ็ญตบะกับข้า?”
หลัวเซียนจื่อ: “ไอ้แก่! ท่านคิดมากไปแล้ว! ข้าแค่อยากจะมา ‘เคลียร์’ กับท่าน!”
บรรยากาศผ่อนคลายลงเมื่อหลัวเซียนจื่อเข้าเรื่องสำคัญ พวกเขาต้องการให้ฟู่ปู้ชิงช่วยไขปริศนาศิลาอำพันสวรรค์ และเปิดประตูกู่จีเตี้ยน ฟู่ปู้ชิงรับคำท้าทาย และอธิบายถึงความอันตรายของกู่จีเตี้ยน สถานที่ที่จักรพรรดิมารฟู่เจี้ยนผู้ยิ่งใหญ่ยังต้องพบจุดจบ
ฟู่ปู้ชิง: “กู่จีเตี้ยน คือหอแห่งสวรรค์ ที่สร้างขึ้นโดยปรมาจารย์กลไกนับสิบในยุคโบราณ! หากเข้าไปโดยประมาท อาจจะมลายหายไปในพริบตา!”
หลี่ว้านเหนียน: “เอ่อ…แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ ‘มาร’ ล่ะ?”
ฟู่ปู้ชิง: “กู่จีเตี้ยน เคยปรากฏขึ้นจากห้วงมิติ…ในตอนนั้น มีจอมมารตนหนึ่ง บุกเข้าไปในหอแห่งนั้นก่อนใคร…สุดท้าย…เขาก็กลายเป็นตำนานที่จอมมารนับไม่ถ้วนต้องหวาดกลัว! …จักรพรรดิมารฟู่เจี้ยน!”
ฟู่ปู้ชิงวิเคราะห์สถานการณ์ได้อย่างเฉียบคม เขาชี้ให้เห็นว่าเป้าหมายของเหล่ามารร้าย ไม่ใช่แค่ทรัพยากรในกู่จีเตี้ยน แต่เป็น “สายเลือดจักรพรรดิมาร” ที่จะทำให้ผู้ครอบครองก้าวขึ้นเป็นผู้นำแห่งโลกมาร
ฟู่ปู้ชิง: “เป้าหมายของพวกมัน…ไม่ใช่แค่ทรัพยากรใน ‘กู่จีเตี้ยน’ แต่เป็น…สายเลือดจักรพรรดิมาร!”
หลัวเซียนจื่อ: “ท่านรองประมุข…ดูภายนอกยังหนุ่มยังแน่น แต่ความคิดกลับ…รอบคอบถึงเพียงนี้! เพียงแค่ศิลาอำพัน ก็สามารถคาดการณ์ทุกอย่างได้!”
เมื่อแผนการชัดเจน ฟู่ปู้ชิงก็เริ่มพิธีเปิดศิลาอำพันสวรรค์ ด้วยความช่วยเหลือจากยอดฝีมือจากสำนักต่างๆ ที่พันธมิตรธรรมะส่งมาสนับสนุน แสงสีทองสว่างวาบ ศิลาอำพันปลดปล่อยพลัง อัญเชิญกู่จีเตี้ยนให้ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า พวกเขาได้เห็นนครกลไกอันยิ่งใหญ่ ลอยเด่นตระหง่านเหนือทะเลสาบไป๋หวี
แต่ในขณะเดียวกัน ที่สำนักปีศาจทมิฬ ประมุขปีศาจได้รับรายงานถึงความเคลื่อนไหวของจ้าวอี้หลง และสั่งการให้ลูกน้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อชิงสายเลือดจักรพรรดิมารมาครอง
ประมุขปีศาจ: “สายเลือดจักรพรรดิมาร…จะพลาดไปไม่ได้!”
เมื่อกู่จีเตี้ยนปรากฏ เหล่าผู้บำเพ็ญเพียรธรรมะก็ไม่รอช้า พวกเขามุ่งหน้าเข้าสู่หอนครกลไกทันที โดยมีฟู่ปู้ชิงนำทาง เขาเตือนทุกคนให้ระวังกลไกอันตรายที่ซ่อนอยู่ทุกหนแห่ง
ฟู่ปู้ชิง: “อย่าขยับ! ที่นี่…เต็มไปด้วยกลไก! ก้าวพลาดไปก้าวเดียว…ก็จะกระตุ้นกลไกอันตรายต่างๆ ให้ทำงาน!”
สรุป
ในตอนที่ 17 และ 18 นี้ จ้าวอี้หลงและหลัวเซียนจื่อได้พบกับปรมาจารย์กลไก ฟู่ปู้ชิง และร่วมกันเปิดประตูกู่จีเตี้ยน นครกลไกโบราณที่เต็มไปด้วยอันตรายและความลับ พวกเขากำลังก้าวเข้าสู่การผจญภัยครั้งใหม่ ที่เต็มไปด้วยความท้าทายและภัยคุกคามจากโลกมาร ที่หมายปองสายเลือดจักรพรรดิมาร
ตัวละครเด่น
- จ้าวอี้หลง: ศิษย์เอกสำนักอวี้ชิง ผู้ถือครองศิลาอำพันสวรรค์ กุญแจสู่กู่จีเตี้ยน เขาเป็นผู้มีไหวพริบ และกล้าหาญ พร้อมเผชิญหน้ากับความท้าทาย
- หลัวเซียนจื่อ: ศิษย์พี่ของจ้าวอี้หลง ผู้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด และความสามารถในการวิเคราะห์สถานการณ์ เธอเป็นผู้ที่คอยสนับสนุนและให้คำแนะนำจ้าวอี้หลงในการเดินทาง
- ฟู่ปู้ชิง: ปรมาจารย์กลไกแห่งสำนักฮวาเจียน ผู้มีฝีมือลึกล้ำ และบุคลิกภาพที่ไม่เหมือนใคร เขาเป็นผู้กุมความลับของกู่จีเตี้ยน และเป็นกุญแจสำคัญในการนำทางพวกเขาเข้าสู่หอนครกลไก
ข้อคิดชวนคิดการแก้ปัญหาของตัวละคร
ในตอนที่ 17 และ 18 นี้ ตัวละครต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายในการเปิดประตูกู่จีเตี้ยน และเตรียมพร้อมรับมือกับอันตรายที่รออยู่ข้างหน้า การแก้ปัญหาของพวกเขาไม่ได้มาจากการใช้กำลังเพียงอย่างเดียว แต่มาจากการใช้สติปัญญา การวิเคราะห์สถานการณ์ และความร่วมมือกันเป็นทีม ฟู่ปู้ชิงใช้ความรู้ความสามารถด้านกลไกนำทาง หลัวเซียนจื่อใช้สติปัญญาในการวางแผน และจ้าวอี้หลงใช้ความกล้าหาญในการเผชิญหน้ากับอุปสรรค ข้อคิดที่ได้จากตอนนี้คือ การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน มักต้องอาศัยการผสมผสานความสามารถที่หลากหลาย และการทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาด